สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ อาจจะไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องทำเลลงทุนมากนัก เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ให้ความสำคัญกับผลตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่ารายเดือนที่สามารถเก็บได้จากผู้เช่า อัตราเติบโต รวมไปถึงผลตอบแทนคิดเป็นเปอร์เซ็นในแต่ละปี (Yield) แต่รู้กันหรือไม่ว่าทำเลในการลงทุนคอนโดนั้นสำคัญมาก เพราะหากเราได้ทำเลที่ดี มีจุดเด่น หรือข้อได้เปรียบบางอย่าง จะมีผลทำให้ผู้เช่าเลือกที่จะเช่าคอนโดของเรา หรือยอมที่จะค่าเช่าสูงกว่า เพื่อให้ได้พักในทำเลที่ต้องการ ดังนั้นเรามาดูกันว่าทำเลใดที่ควรเลือก เพื่อสร้างข้อได้เปรียบให้กับอสังหาริมทรัพย์ที่เราเลือก ให้มีค่าเช่าสูงกว่าคอนโดอื่น

ทำเลรถไฟฟ้า แม้ว่าคอนโดทำเลรถไฟฟ้านั้น มักจะมีราคาที่สูงกว่าคอนโดทั่วไปอยู่แล้ว แต่ทราบกันหรือไม่ว่ามีคนมากมาย ยอมจ่ายค่าเช่าสูงกว่าคอนโดทั่วไปมาก เพื่อให้ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้า นั่นเป็นเพราะว่าทำเลรถไฟฟ้า สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้พักอาศัย ที่จะต้องเดินทางไปทำงานนั่นเอง เพราะการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการเรียกรถส่วนบุคคลมาก รวมทั้งยังประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาไปกับรถติดบนท้องถนน ดังนั้นยิ่งในช่วงที่ผู้คนเปลี่ยนงาน หรือช่วงที่มหาวิทยาลัยใกล้เปิดเทอม คอนโดใกล้รถไฟฟ้า สามารถทำราคาได้สูงกว่าคอนโดทั่วไปมาก

ทำเลท่องเที่ยว (แหล่งพักผ่อน ทะเล ภูเขา) เป็นทางเลือกการลงทุนคอนโด ที่บอกเลยว่ามีความมั่นคงสูงมาก และยังเป็นทำเลที่ทำค่าเช่าได้สูงมากเช่นกัน เหตุผลเดียวที่ทำเลท่องเที่ยวมีความมั่นคงและทำค่าเช่าได้สูง เป็นเพราะว่าสถานที่ท่องเที่ยวนั้น ไม่สามารถที่จะเคลื่อนย้ายได้เหมือนกับทำเลอื่น ทำเลประเภทอื่น ไม่ว่าจะเป็นแหล่งงาน มหาวิทยาลัย โรงเรียน แม้จะทำราคาเช่าได้สูง แต่ทำเลเหล่านี้สามารถเคลื่อนย้ายได้ แหล่งงาน สามารถที่จะย้ายไปเปิดที่อื่นได้ แม้แต่มหาวิทยาลัย ก็สามารถที่จะปิดตัวไปได้ แต่สถานที่ท่องเที่ยวอย่างทะเล ไม่สามารถที่จะย้าย หรือปิดตัวไปได้อย่างแน่นอน จึงทำให้มั่นใจได้ว่าการเลือกทำเลท่องเที่ยว สามารถที่จะสร้างผลตอบแทนได้สูง ได้อย่างยาวนานที่สุด เมื่อเทียบกับทำเลประเภทอื่น จึงไม่แปลกที่เราได้เห็นทำเลภูเก็ตที่ราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ และทำเลพัทยา ที่มีผู้คนจากทั่วโลกเลือกเข้ามาพัก ทำให้ค่าเช่ากระโดดขึ้นมาสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำเลท่องเที่ยวนั้น เป็นทำเลที่มีซัพพลายจำกัด เรียกได้ว่าหมดแล้วหมดเลย เพราะไม่สามารถสร้างสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นมาเองได้